นางสาวพริมวรินทร์ พิธาวรเสฐ หรือ สีกาตอง เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ในคดีที่นาย พงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ แจ้งความเอาผิดฐาน ข่มขู่รีดเอาทรัพย์ เพื่อปกปิดเรื่องความสัมพันธ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้น ทำให้อดีตพระกาโตะ ต้องเบิกถอนเงินจากวัดเพ็ญญาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 6 แสนบาท ไปจ่ายให้คนกลางเพื่อปกปิดข่าวของตนเอง
พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำสีกาตองเเละผู้ร่วมสมอ้างเป็นพี่ชายสีกาตอง โทรไปข่มขู่เรียกเงิน โดยทั้ง 2 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เเละขอให้การเป็นเอกสารในภายหลัง ส่วนคนที่อ้างเป็นพี่ชายของสีกาตอง พบว่าเป็นเพียงที่รู้จักผ่านทางเเอปพลิเคชันสนทนาออนไลน์ ไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องเเต่อย่างใด
เบื้องต้นเเจ้งข้อหาสีกาตอง 3 ข้อหาคือ ข่มขู่รีดเอาทรัพย์, กรรโชกทรัพย์ เเละทำให้สูญเสียอิสรภาพ ส่วนชายที่ร่วมก่อเหตุถูกเแจ้ง 2 ข้อหาคือ กรรโชกทรัพย์ เเละทำให้สูญเสียอิสรภาพ
โดยหลังจากแจ้งข้อหาเสร็จก็จะปล่อยตัว เนื่องจากเป็นการเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เเละพนักงานสอบสวนจะรวบรวมสำนวน เพื่อส่งให้พนักงานอัยการ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และจะนัดผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอีกครั้ง
ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ที่ร่วมสอบปากคำในคดีทุจริตเบิกถอนเงินวัดเพ็ญญาติ
ฝากเตือนผู้ที่จ้องจะหาประโยชน์จากวัด หรือพระ ไม่ว่าจะเป็นสีกา หรือตัวพระเอง หากกระทำผิด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขอให้ดูคดีของพระกาโตะและสีกาตองไว้เป็นตัวอย่าง