วันที่ 15 มกราคม 2565 คุณตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง เจ้าของกิจการหลายอย่าง ทั้งห้างเพชรทองเคทูเอ็น เครื่องดื่มต่าง ๆ มีการออกแคมเปญขายสินค้ากล่องสุ่ม 988 LD PROTEIN ราคา 988 บาท ซึ่งก็มีคนได้รับรางวัลใหญ่ เช่น รถยนต์ป้ายแดง แจกไปหลายสิบคัน ทั้งหมดรวมมูลค่า 5 ล้านบาท
ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ตอนที่เริ่มขายกล่องสุ่ม ได้มีลูกค้าหลายคนโพสต์สลิปการโอนเงินลงใต้คอมเมนต์ของเพจเพื่อเป็นหลักฐานการซื้อ แต่กลายเป็นดาบสองคม เพราะมิจฉาชีพก็ฉวยโอกาสเอาสลิปเหล่านี้มาปลอมแปลงให้เป็นชื่อของตัวเอง สวมรอยสั่งกล่องสุ่ม ทำให้ทางร้านส่งกล่องสุ่มไปให้ฟรี ๆ โดยไม่ได้เงินค่าของเลย
เมื่อทางคุณตั๊กรู้ตัว มีการสืบเสาะจนรู้ว่าใครเป็นมิจฉาชีพ จึงออกอุบายดักจับโจรขึ้น ทักไปหลอกอีกฝ่ายว่า กล่องสุ่มของคุณได้รางวัลใหญ่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ ขอให้มารับรางวัลที่บริษัทด้วย
และแล้ว มิจฉาชีพก็หลงกลตามคาด เดินทางมาที่บริษัทจริง ๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่า มีการซุ่มตำรวจและแอบถ่ายคลิปเอาไว้ ก่อนที่จะเอามาโพสต์เฟซบุ๊กให้โลกรู้ มีการแชร์ไปเกือบ 3 หมื่นครั้ง
ในคลิปจะเห็นว่า มิจฉาชีพเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 23 ปี เดินทางมาจากนครสวรรค์ ถ้าดูจากภาพลักษณ์ภายนอก นึกไม่ถึงเลยว่า คน ๆ นี้จะเป็นโจร ส่วนทางคุณตั๊ก และสามี ก็ต้อนรับตามปกติ เริ่มทำทุกอย่างตามแผน ค่อย ๆ ไล่ต้อนให้คนร้ายจนมุม
สามีคุณตั๊ก ถามว่า ได้ของรางวัลจากอะไร มิจฉาชีพตอบว่า กล่องเซอร์ไพรส์ 988 จากนั้นก็มีการไล่ต้อนด้วยคำถาม บีบให้จนมุมจนมิจฉาชีพแทบไม่ทันตั้งตัว เริ่มตั้งแต่ มีการซื้อของไปกี่ครั้ง มิจฉาชีพตอบว่า 3 ครั้ง
ทางคุณตั๊กเลยบอกให้ทีมงานช่วยเช็กประวัติการสั่งซื้อด้วย แต่พอไปเช็กในประวัติกลับไม่มี ทางมิจฉาชีพจึงบอกว่า เธอซื้อกล่องสุ่มจากตัวแทน ไม่ได้ซื้อโดยตรงกับทางร้าน
แผนทุกอย่างดูเข้าทาง คุณตั๊กจึงไล่ต้อนต่อด้วยการถามชื่อตัวแทน แต่มิจฉาชีพกลับใบ้ บอกชื่อไม่ได้ บอกแค่ว่าเป็นคนแถวบ้าน ดังนั้นคุณตั๊กจึงถามต่อไปว่า ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมได้มอเตอร์ไซค์วันนี้ มิจฉาชีพบอกว่า มีแค่พี่ที่สงสัยเท่านั้น
เมื่อสถานการณ์สุกงอม ทางคุณตั๊กจึงจี้ถามคำถามสำคัญ หนูโอนเงินเองใช่ไหม มิจฉาชีพตอบว่า ให้ร้านค้าโอนให้ ต่อมา ทางสามีคุณตั๊กจึงเอากระดาษที่มีหลักฐานสลิปการโอนเงินให้มิจฉาชีพดู ถามว่า อันนี้คือสลิปของหนูใช่ไหม ทางมิจฉาชีพบอกว่า ใช่ แต่เป็นการจ้างเขาโอน
ในที่สุด ก็ถึงเวลาใช้ไม้ตายสุดท้าย คุณตั๊ก เอาสลิปอีกอันมาเทียบกับของมิจฉาชีพ บอกว่า ทุกอย่างมันเหมือนกันมาก สรุปแล้ว สลิปอันนี้ เป็นของหนูหรือของคนนั้น ซึ่งมิจฉาชีพก็ยอมรับตรง ๆ ว่า เป็นของคนนั้นค่ะ
สถานการณ์แบบนี้ เรียกได้ว่า จำนนด้วยหลักฐาน เอาสลิป ทางคุณตั๊กจึงเรียกตำรวจที่ซุ่มอยู่เข้ามาจับกุมตัวไปโรงพักทันที
เมื่อรู้ตัวว่ามิจฉาชีพคือใคร คุณตั๊กก็พูดใส่มิจฉาชีพแบบดุดัน ผิดจากภาพลักษณ์นุ่ม ๆ เมื่อครู่ว่า หนูคิดว่าพวกพี่โง่เหรอ ซึ่งทำให้มิจฉาชีพดูจ๋อยไปเลย พร้อมกันนั้น คุณตั๊ก ยังได้อัดคลิปติดต่อผู้เสียหายที่ถูกปลอมสลิปว่า จับโจรได้แล้ว เรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเธอโดนโกงบ่อยมาก ขณะเดียวกัน ก็ขอเตือนลูกค้าของร้านด้วยว่า เวลาโอนเงินมาแล้วอย่าโพสต์สลิปใต้คอมเมนต์ ให้ส่งมาทางหลังไมค์ เพราะมิจฉาชีพมันสามารถฉวยโอกาสเอามาปลอมแปลงได้ จนเดือดร้อนหมดทุกคน
ด้านมิจฉาชีพ บอกเสียงอ่อน ๆ ว่า หนูทำครั้งนี้ครั้งแรก ทางคุณตั๊กจึงรีบบอกว่า อย่าพูด ครั้งแรกหรือครั้งไหนไม่รู้ เธอโกงคนอื่นมันผิด ชีวิตมีแต่ความวิบัติ เธอมันสันดานขี้โกง ไม่คิดเลยว่า มิจฉาชีพจะกล้ามาถึงบริษัท
เธอจะมาเอามอเตอร์ไซค์ 58,000 บาท เธอเข้าคุ กไปก่อนค่ะ คุณตั๊กกล่าวทิ้งท้าย
เมื่อมาถึงโรงพัก สน.คันนายาว คนร้ายก็ยอมจำนนแต่โดยดี และไม่ขอประกันตัวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ คุณตั๊ก ยังมีการเปิดเผยการจับโจรอีกเคสหนึ่งว่า เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจ เพราะโจรคนนี้คือคนที่ตั๊กเคยช่วยเหลือในเรื่องค่านมลูก แต่กลับมาทำกับตั๊กแบบนี้ ซึ่งคนร้ายก็โพสต์ข้อความขอโทษคุณตั๊กจากใจ ขอให้คุณตั๊กเมตตาไม่เอาเรื่องสักครั้ง ถ้าคุณตั๊กให้อภัย จะพาลูกไปบวชให้ หรือทำคลิปขอขมาแทนก็ได้
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ก Kornkanok Suwanbut