จัดเป็นนักแสดงตลกชั้นครูอยู่ในวงการสร้างเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มมายาวนาน 40 ปี ตูมตาม เชิญยิ้ม ล่าสุดเจ้าตัว เล่าถึงบทเรียนชีวิตราคาแพงที่ทำเอาชีวิตเกือบพังเพราะหลงมัวเมากับแสง สี เสียง ทำงานเยอะ มีเงินมากแต่ไม่เหลือเก็บ แต่ยังดีที่ตั้งสติดึงตัวเองกลับมาทัน ปัจจุบันขอใช้ชีวิตอยู่บนความพอดี พอเพียง
ตูมตาม เผยว่า ตอนดังๆนะเงินที่ได้มาจากการเล่นตามคาเฟ่เยอะมาก เพราะ 1 คืน เราเล่น 9 รอบ คือ วิลล่า 2 รอบ ดารา 2 รอบ พระราม9 2 รอบ เราขึ้นเล่นหนึ่งรอบคือครึ่งชั่วโมง
พอเราจบจากที่นี่เราก็วิ่งไปอีกที่แล้วก็กลับมาที่เดิม เข้าๆออกๆ แต่เราไปเล่นแต่ละที่เราก็เปลี่ยนมุกไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำเดิม เราก็ดูจากแขกแล้วก็วงที่เขาขึ้นก่อนคณะเราจะได้เล่นไม่ซ้ำกัน เริ่มเล่น 21.00 - ตี 4 ทุกวัน แต่พอเราเล่นตลกเสร็จก็ไม่กลับบ้านไปเล่นสนุกเกอร์ต่อ
แต่ ณ ตอนนั้นพอเราทำงานเสร็จในทุกๆ วันพอแบ่งเงินกันแล้วก็ตาสว่างแล้ว ตีว่าวันละ 4,000 บาท แต่เราแทบไม่มีเงินเก็บเพราะเราไปหมดกับสนุ้กหมด เพราะเราเล่นตั้งแต่ตี 4 ถึงบ่ายโมง
แต่ผมไม่เสียงานนะ พอเราเล่นเสร็จก็กลับไปนอนหกโมง ทุ่มหนึ่งก็ไปเล่นต่อ ส่วนมุกเราก็ไปเล่นที่หน้าคาเฟ่
แต่พอไม่มีตลกคาเฟ่ งานไม่มีทำ คาเฟ่ค่อยๆหายไป ตอนนั้นเราไม่ได้ปรับตัวไม่ทันเพราะพอคิดว่าจะใช้หนี้ ผู้หญิงก็โทรฯ มาอีกแล้ว (ติดหญิงของเราคือเราไม่ได้เลี้ยงดูเขานะครับ
แต่เวลาเราพาเขาไปทานข้าวเราก็เป็นคนจ่ายให้ตลอดแต่เพราะผู้หญิงหลายคนมันเลยหมดเยอะ) แล้วตอนนั้นเรายังลงไม่ได้ เรื่องข่าวขอข้าววัดกิน ไม่ได้ตามข่าวขนาดนั้น
เสื้อผ้าที่ผมเอาไปขายที่ตลาดนัดคือเป็นเสื้อที่ผมใส่ไม่ได้ แล้วที่ผมไปวัดไปขอข้าวกินไม่ใช่ ไปหาพระอาจารย์ท่านก็ให้ของที่เขาใส่บาตรมาไปให้หลานกิน เพราะอีกคนถามอีกคนไปลงมันคนละแบบ มันเลยเป็นข่าวออกมาว่า
ตูมตาม ตลกตกอับไม่มีข้าวจะกิน ตอนต่ำสุดลงถึงที่ว่าไม่มีเงินเฉยๆ ไม่มีงาน มีหนี้