หลังนักแสดงรุ่นใหญ่ ทะนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ แต่งงานกับสาวนอกวงการ ติ๊ก ชลธิดา ล้ำเลิศยุทธศิลป์ ที่อ่อนกว่าถึง 20 ปี ปัจจุบันตอนนี้ ทั้งคู่ยังคงรัก และสวีทหวานกันไม่เปลี่ยน แม้อายุจะห่างกัน แต่ไลฟ์สไตล์ต้องบอกว่าไปด้วยกันได้ เห็นจากกิจกรรมที่ทำร่วมกัน และสำหรับเส้นทางรักของทั้งคู่นั้น นักแสดงรุ่นใหญ่เคยกล่าวไว้ว่า
จริงๆ เราไปต่อยมวยแล้วได้เจอกัน เมื่อประมาณ 4 ปี ก่อน ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักกัน ก็คบเลยนะ ผมไม่ได้เสียเวลายืดเยื้ออะไรเลย เพราะเรามั่นใจในตัวเขาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ ถามว่าประทับใจเขาตรงไหน เขาเป็นคนเก่ง และเข้ามาเติมในส่วนที่เราไม่มี เขามาสอนให้เรามองชีวิตและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกด้าน
ตอนที่เจอกันเขาเป็นเซลล์อยู่ที่โรงแรม เอส 31 ตอนนั้นเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งตอนแรกเขาไม่ได้คิดจะกลับมาเมืองไทย แต่เป็นเพราะเขามีปัญหาอะไรสักอย่างหนึ่ง
พอกลับมาเมืองไทยที่บ้านเขามีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ แต่เขาไม่อยากทำ เขาเลยออกมาทำงานเอง เพราะเขาไปอยู่เมืองนอกมา 2-3 ปี พอกลับมา เขามองหางาน และพอดีกว่าโรงแรม เอส 31 รับสมัครเซลล์ เขาเลยมาสมัครงาน โดยเริ่มต้นจากการที่เขาไม่ได้มีความรู้ด้านนี้เลย
พอดีกับว่าผมรู้จักกับเจ้าของโรงแรม (หนึ่ง สรัญ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์) ซึ่งเปิดคลาสต่อยมวยที่โรงแรม ผมเลยมาต่อยด้วย ซึ่งคุณหนึ่ง สรัญ เขาเห็นว่าไหนๆ เขาก็ต่อยมวยแล้ว เลยเชิญพนักงานมาต่อยมวยด้วย เลยทำให้ผมได้เจอกับติ๊ก ผมคิดว่าเขาน่ารัก และดูเฮลตี้ (แข็งแรง) ดี พอคุยกันก็รู้สึกว่า ถูกคอ เขาดูเป็นคนแมนๆ ไม่เรื่องมาก อายุก็ 30 ต้นๆ แล้ว ถือว่าโอเค พูดจากันรู้เรื่อง ถามว่าอายุห่างกันกี่ปี 20 ปี พอดี
ภรรยาผมเสี ยไปเมื่อ 11 ปีแล้ว ประมาณปี 2548 และผมเริ่มวิ่งรณรงค์ เมื่อปี 2549 ถ้าให้ผมพูด คือการเสียชีวิตของภรรยาผม มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ถามว่าผมอยากให้เกิดมั้ย ผมไม่ได้อยากให้เกิด แต่ถ้าอะไรที่เกิดขึ้นแล้ว ให้มองว่า
มันเป็นเรื่องที่ดีเสมอ ถ้าเขาไม่เสียชีวิตในวันนั้น ผมจะได้มาวิ่งออกกำลังกายในวันนี้เหรอ หรือผมจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือเปล่า แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็ไม่อยากให้เขาเสียชีวิตหรอก แต่ในเมื่อเราย้อนเวลาไม่ได้ คงต้องมองให้เป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น
เอาเข้าจริง ถ้าหากตอนนี้ภรรยาผม มองลงมา เขาจะรู้สึกเสียใจ หรือดีใจกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะเขาตายไป ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมดูแลลูก และใช้ชีวิตต่อไป ภรรยาผมคงคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก ถึงวันหนึ่งเดี๋ยวผมก็ต้องตามเขาไป
สุขภาพเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด เพราะผมมีจุดเปลี่ยนตอนไ ฟ ดู ด และตอนที่ภรรยาจากไป นั่นทำให้มองเห็นว่า คุณค่าของเราเรื่องสุขภาพสำคัญที่สุด เลยเอามาผนวกกับกีฬา แล้วเพื่อนๆ ก็เอาของมาให้ทั้งอุปกรณ์และชุด เราก็หยิบมาใช้แค่ส่วนที่เราใช้ได้ ที่เหลือกกว่านั้นก็เอาไปบริจาค เอาไปประมูลหาเงินสร้างโบสถ์ ทุกคนก็จะได้ทำบุญ
อายุห่างกัน 20 ปี เป็นอุปสรรคสำหรับคู่เราหรือเปล่า?
อาจริงๆ พี่ว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขนะ ทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าอีก พี่อายุ 55 ก็จริง แต่ความที่พี่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แล้วพี่ก็อยู่ในวงการบันเทิง ซึ่งมันมีแต่ความสนุกสนาน
บวกกับเขาเองก็มีความเป็นผู้ใหญ่ เป็นแม่ เป็นเพื่อนของเด็กๆ ได้ เวลาไปไหนด้วยกันเขาสามารถบอกได้ว่าถ้าผมซื้ออะไรไปฝากแล้วลูกเราจะชอบ
คือเขาจะทำได้ทุกเรื่อง แล้วเขาก็มีความสุขกับทุกอย่างที่ได้ทำครับ"