งานนี้ต้องบอกเลยว่าฟาดไม่ยั้งจริงๆ ช่วงนี้ หลังจากที่ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ หรือชื่อเดิม ติ๊ก กนิษฐรินทร์ เพิ่งออกมาไลฟ์สดพูดถึงอดีตสามี หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ เกี่ยวกับการเลี้ยงบุตร และพัฒนาการของบุตรสาว น้องวีจิ ที่ดูช้า และตัวเธอที่บอกว่าจะได้เจอบุตรก็ยากมาก ซึ่งทางศรรามก็ได้มีการชี้แจงกลับถึงประเด็นต่างๆ ไปแล้ว
สำหรับกรณีของทั้งคู่ ก็ไม่วายว่าจะมีเสียงวิจารณ์ตามมา โดยทางด้าน กุ้งพลอย นั้นบอกว่าจะไม่ยอมทนคำด่าทอเหยียดหยามของชาวเน็ตต่างๆ เตรียมดำเนินคดีไม่ไหว้หน้าเพื่อเรียกเงิน
และล่าสุดในอินสตาแกรมของกุ้งพลอย เจ้าตัวได้มีการรีโพสต์ข้อความจากชาวเน็ตรายหนึ่งที่มีการมาคอมเมนต์และพาดพิงถึงตนเอง
โดยกุ้งพลอยได้เขียนข้อความขยายลงในสตอรี่ด้วยว่า ดำเนินคดีค่ะ รวบรวมหลักฐาน เห็นหลายรอบ อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน แยกแยะนะคะ
ติ๊ก บิ๊กบราเธอ เดิมมีชื่อเล่นว่า กุ้งพลอย และชื่อจริงเดิมว่า อริสา สนธิรอด เกิดเมื่อ 13 เมษายน 2526 เธอเคยเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ Big Brother ซีซั่นที่ 2 ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ITV ในปี 2549 โดยในตอนนั้นเธอใช้ชื่อว่า อริสา สนธิรอด มีอาชีพเป็นสตั๊นต์หญิง และด้วยบุคลิกเป็นผู้หญิงเท่ แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ มีความเด็ดเดี่ยว กล้าคิดกล้าทำ จึงทำให้เธอได้เป็นผู้ชนะเลิศในที่สุด และมีโอกาสได้ทำงานเป็นสตั๊นต์ให้กับนักแสดงหญิงในละครไทยและภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง
ในช่วงระหว่างปี 2550 ถึง 2560 หลังจากที่ติ๊กรับงานเป็นสตั๊นสาวมาสักระยะ เธอก็เริ่มมีโอกาสได้รับงานแสดงเองมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ จะได้รับบทแนวบู๊แอ๊คชั่น เพราะมีร่างกายที่แข็งแรง ทะมัดทะแมง ทำให้เวลาเข้าฉากชก เตะ ต่อยก็สามารถทำได้อย่างคล่องตัว แม้ว่าบทบาทของเธออาจจะไม่โด่งดังมากนัก แต่เธอก็ทำงานในวงการบันเทิงมายาวนานนับสิบปี สำหรับผลงานการแสดงของเธอในช่วงเวลานั้น
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2561 ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ก็กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศมากขึ้น จากข่าวการแต่งงานฟ้าแลบของเธอกับพระเอกชื่อดังตลอดกาลอย่าง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ โดยเธอเข้าพิธีแต่งงานกับ ศรราม ในพิธีที่เรียบง่ายภายในบ้านส่วนตัว
โดยมีผู้ใหญ่ในวงการมาทำพิธีมงคลสมรสให้ พร้อมเดินทางไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความฮือฮาและกลายเป็นเรื่องทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ของเมืองไทยอยู่พักใหญ่ ต่อมาไม่นานทั้งคู่ก็มี น้องวีจิ ลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจ
ตลอดระยะเวลาที่ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ใช้ชีวิตครอบครัวกับ หนุ่ม-ศรราม ก็มีมรสุมดราม่าต่างซัดเข้ามาหลายต่อหลายเรื่อง นอกจากนั้นยังมีข่าวลือแพร่สะบัดเรื่องการหย่าของทั้งคู่ออกมาเป็นระลอก ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นการหย่าแก้เคล็ด หลังถูกพระทักว่าหย่าแล้วชีวิตจะดีขึ้น แต่ยืนยันว่ายังใช้ชีวิตคู่ สถานะสามี-ภรรยาเหมือนเดิม แต่ถึงอย่างไรทั้งคู่ยังคงถูกจับตาเรื่องความสัมพันธ์อยู่ตลอด
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2563 ชาวโซเชียลก็ต้องมาเกาะขอบจอริติดตามข่าวร้อนกันรัวๆ เมื่อพระเอก หนุ่ม-ศรราม ได้ออกมาโพสต์ภาพใบหย่าลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยว่าได้หย่าขาดจากติ๊ก พร้อมระบุว่า ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกสาว ส่วนลูกนั้นอยู่กับตนเอง ด้านภรรยาได้ย้ายออกจากบ้านไปแล้ว พร้อมกันนั้นทาง หนุ่ม-ศรราม ยังได้โพสต์ข้อความประกอบรูปภาพดังกล่าว ระบุว่า
เนื่องจากในระยะ 2 ถึง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีบุคคลมาตามหาคุณติ้กที่บ้านและโทรศัพท์มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก็ทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณาผู้ใดก็ตามที่ได้ทำสัญญาหรือทำธุรกรรมทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆ กับคุณติ้ก กนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติ ช่วยติดต่อกับคุณติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน เวลา ดังกล่าว และคุณติ้กก็ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผมแล้ว เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลงที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น ขอบพระคุณครับผม
นอกจากนี้ในวันที่ 4 ก.ย. 2563 หนุ่ม-ศรราม อดีตสามีของ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ก็ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยได้โพสต์คลิปเสียงที่ตัวเขาได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ผู้จ้างงานรายหนึ่งเพื่อทวงถามเรื่องเงินค่าจ้าง ซึ่งทาง หนุ่ม-ศรราม ยังไม่ได้รับค่าจ้างนั้นเต็มจำนวน
ซึ่งเขาก็ได้รับคำตอบสุดเซอร์ไพรส์เมื่อทางผู้จ้างแจ้งว่าได้โอนเงินค่าจ้างส่วนหนึ่งดังกล่าวไปให้ทางภรรยา หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ แล้ว เนื่องจากติ๊กบอกทีมงานไปว่าจะเป็นผู้รับเงินก้อนนี้ไว้เองและจะไปบอกอดีตสามีภายหลัง แต่ตัวอดีตสามีกลับไม่รู้เรื่องการโอนเงินดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้เองที่กลายเป็นชนวนให้ หนุ่ม-ศรราม ตัดสินใจเด็ดขาดให้ติ๊กออกจากบ้าน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ โหนกระแส ในประเด็นร้อนแรงดังกล่าว โดยในรายการเธอได้กล่าวยอมรับผิดในสิ่งที่เธอทำลงไป และยังยอมรับว่าตนเองติด พนันออนไลน์ จนทำให้เป็นหนี้จำนวนมากและเป็นสาเหตุให้ครอบครัวพัง และต้องหย่าขาดจากอดีตสามีนั่นเองค่ะ
