
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดาราสาวมากความสามารถที่ใครหลายคนชื่นชอบมาก นั่นคือ “ตอง ภัครมัย โปตระนันท์” ที่ถึงแม้จะสวยเก่งแค่ไหนยังไม่วาย

ถูกบุลลี่ตั้งแต่เรื่องหน้าตา ผิวพรรณ รูปร่าง แม้กระทั่งท่อนขา อีกทั้งยังมีช่วงที่ห่างหายไปจากวงการถึง 4 ปี แต่กลับมาพร้อมความสวยเป๊ะ

จนถูกเมาท์ไปแอบทำสวยที่ไหนมาหรือเปล่า โดยสาวตองเองำด้มีโอกาสออกมาเปิดใจเหตุหายหน้าไป 4 ปีว่า เราติสต์จริงๆ ถ้าไม่อยากทำงาน

ก็คือจะไม่รับงาน ตอนนั้นก็อยู่บ้านเฉยๆ เลี้ยงหมา ฟังเพลง ประมาณ 4 ปีเรารู้สึกว่าช่วงระยะเวลาก่อนหน้านั้นคือทำงานหนักมาก ทำงานทุกวัน

ถ่ายละคร 3 เรื่องศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ต้องไปร้องเพลงอีก รู้สึกว่าชีวิตกดดันมาก เราเลยแบบไม่เอาแล้ว เราไม่เป็นตัวของตัวเองด้วย มันเหนื่อยจริงๆ

ต้องปั้นหน้าเราไม่อยากทำ อยากพักแป๊บนึง แต่พอพักแล้วมันเพลิน เราก็ใช้เงินที่เก็บไว้ด้วยเงินที่บ้านเราด้วย ปีที่ 2-3 ไม่คิดถึงงานในวงการบันเทิงค่ะ

มาคิดถึงเอาตอนปลายปีที่ 4 เรารู้สึกว่าเราทิ้งเวลาไปแล้ว เราต้องกลับมาได้แล้ว รู้สึกผิด ตอนนั้นตองอยากพักจริงๆ คือตองรู้สึกว่ารับไปก็ทำได้ไม่ดี

เราไม่สามารถทิ้งตัวละครที่ตองรับไปก่อนหน้าได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัว แต่พอ 4 ปีเนี้ย เราได้ไปเรียนรู้นั่งสมาธิด้วย ปล่อยได้ ก็ดีขึ้น แต่ตอนนี้กลับมา

รับงานแล้วค่ะ ทั้งนี้เธอเองได้เปิดใจถึงเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมาเกือบ 30 โล โดยเล่าว่า เรื่องของเรื่องคือไม่ได้สนใจว่าจะอ้วนหรือจะผอม ก็ 30 โล

แล้วโดนคนว่า และเป็นคนไม่ชอบให้ใครก็ตามดูถูก ก็ใช้วิธีลดความอ้วนด้วยการเดินจากรัชดา ไปพระราม 9 คือการออกกำลังกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

บางคนต้องออกเยอะๆ ให้หัวใจเต้นหนักๆ เพื่อจะลด แต่ตองทำอะไรที่บีบหัวใจมากๆ ไม่ไหว เพราะร่างกายไม่ได้เหมาะกับการทำอะไรแบบนี้ ก็จาก 80 กิโล

จนตอนนี้เหลือ 50-53 กิโล ส่วนเรื่องสสถานะหัวใจเธอบอกว่า โสด ไม่มีคนคุย เพราะตองไม่ออกไปไหน และเป็นคนที่นิ่งมากและเงียบมาก จนคนไม่รู้

ว่าจะเข้ามาคุยยังไง และก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ใครเข้ามา ถ้ามีแฟนแล้วแฮปปี้ก็มีแฟนนะ ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง นอกจากนี้เธอยังโต้ข่าว มีข่าวว่าเราซุกลุก?

“หลานค่ะ ลูกน้องชายพอดีหน้าเหมือนกัน ชื่อน้องต้องมนตร์” ได้ข่าวว่าเห่อมาก? “ก็หลานคนแรกของตะกูล เขากินเก่งฟัดสนุกมาก” หลานคนนี้เราเปย์สุดตัว?

” ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ด้วย ส่งของมาเยอะมาก ส่วนตัวก็ทุ่มเยอะ ส่วนโควิดร้านทองปิด เราก็หาเดินซื้อ” เรียกได้ว่าหลงหลานหนักมาก
