
ขุมทรัพย์พันล. ‘ปราบ บูลกุล’ ทายาท ‘ฟาร์มโชคชัย’ ทำงานแลกค่าแรงขั้นต่ำ
เรียกได้ว่ายิ่งโตยิ่งฉายแววหน้าตาดีมากๆ สำหรับ น้องปราบ บูลกุล บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแม่ สู่ขวัญ บูลกุล และสามี โชค บูลกุล
ทายาทเจ้าของฟาร์มโชคชัย ก็โตเป็นหนุ่มแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มักไม่ค่อยได้เห็นภาพหนุ่มน้อยคนนี้สักเท่าไร แต่จะเห็นได้จากอินสตาแกรมที่คุณแม่สู่ขวัญ
อัปเดตตอนบุตรชายช่วยทำงานในฟาร์มเสมอ โดยก่อนหน้านี้ คุณพ่อโชคเป็นคนอัพลงในอินสตาแกรม พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “ช่วงนี้ครอบครัวแยกย้าย
ช่วยกันทำมาหากินครับ พ่อก็ประชุมที่โน่นที่ ที่นี่ที ออกจากบริษัทนี้เข้าบริษัทนั้น แม่ก็จะมีงาน presenter งานแฟชั่น สวยไฉไลไปทุกแห่งหน
ส่วนลุก ช่วงปิดเท่อมก็เหมือนเดิมให้ไปทำงานเอาค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำไปก่อน แลกกับซื้อ game บน ipad อย่าคิดว่าพ่อจะให้ง่ายๆ ตอนนี้ครอบครัว
เจอกันตาม ไอจี ครับ เอ้า อดทนหน่อย อีกไม่นานจะได้ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว” เรียกได้ว่าต้องขอชื่นชมคุณพ่อคุณแม่ที่อบรมสั่งสอนน้องอย่างดีจนโต
มาเป็นบุคคลที่มีคุณภาพมากๆ เลยทีเดียว ทั้งนี้ สู่ขวัญ บูลกุล เคยให้สัมภาษณ์ว้ว่า งานประจำของเธอคือดูแลครอบครัว ดูแลลุก นอกนั้นก็เลือกทำงานที่
รู้สึกว่าสนุกกับมัน งานที่คิดว่ามีคุณค่า เมื่อก่อนทำทุกอย่างเพราะต้องทำมาตลอด ต้องเรียนให้ดี ต้องทำงานให้ดี ต้องเก็บตังค์ พ่อสอนเสมอว่าเป็นผู้หญิง
ต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้ พราะศักดิ์ศรีของผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญ เธอจึงขยันทำงานอยู่ตลอดเวลา และการเลี้ยงบุตร ถือเป็นแบบอย่างในการสอนลุกที่ดีมาก
เพราะขนาดน้องปราบเป็นถึงทายาทระดับพันล. นับเป็น ทายาทเจ้าของฟาร์มโชคชัย แต่ก็ยังต้องทำงานเพื่อแลกกับค่าจ้าง เหมือนเป็นการปลูกฝังให้ลูกรู้จัก
เก็บออมด้วยตัวเองตั้งแต่เล็กๆ และดูจากการทำงานในฟาร์มของน้องปราบแล้ว ต้องบอกว่าเด้กคนนี้คือลุกไม้ใต้ต้นจริงๆ ถอดแบบทั้งพ่อและแม่มาเป๊ะมาก
สำหรับประวัติส่วนตัวของ น้องปราบ มีชื่อจริงว่า ปราบ บูลกุล เกิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2548 ปัจจุบันอายุ 17 ปี จบการศึกษาระดับประถมจาก Harrow
International School Bangkok ศึกษาต่อระดับมัธยมที่ St Peter’s School ประเทศนิวซีแลนด์ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นทายาทฟาร์มโชคชัยแต่หนุ่มน้อยคนนี้
ก็เป็นคนที่ติดดิน รวมไปถึงการใช้ชีวิตง่ายๆ ในฟาร์ม ด้วยการทำงานเป็นพนักงานในฟาร์มโชคชัย โดยน้องจะขอที่บ้านมาทำงานในฟาร์มช่วงหยุดปิดเทอมในทุกๆ ปี
ซึ่งการทำงานของน้องปราบในฟาร์มนั้น ไม่ใช่ทำแบบเล่นๆ เหมือนเด้กนึกสนุกอยากลุกขึ้นมาทำนะ เพราะน้องปราบทำงานแบบผู้ใหญ่จริงจังเลย เวลาทำงานก็ต้องมี
หัวหน้างานคอยคุมงาน ทำงานเสร็จก็ต้องเขียนรายงานส่งหัวหน้างาน ซึ่งหัวหน้างานก็จะส่งผลงานที่ทำในแต่ละวันไปที่คุณพ่อ เรียกได้ว่าฝึกตัวเองให้ทำทุกอย่างได้
ตั้งแต่งานฟาร์มไปถึงงานบริหารตั้งแต่เด้กเลยจริงๆ โดยชีวิตส่วนตัวของน้องปราบ ก็เรียกว่ามากความสามารถจริงๆ เพราะน้องปราบ มีความสามารถในการเล่นดนตรี โดยเฉพาะกีตาร์
และยังมีความสามารถทางด้านการขี่ม้าอีกต่างหาก โดยในปัจจุบันนี้น้องปราบ ก็เรียกว่ากลายเป็นเด้กนอกแบบเต็มตัว โดยเขาได้เข้าศึกษาต่อระดับมัธยมที่ St Peter’s School ประเทศนิวซีแลนด์
ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำเอกชนชั้นนำของประเทศ โดยโรงเรียน St Peter’s ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่เรียนกว้างใหญ่สวยงาม ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่าพันไร่ที่ประกอบด้วยสนามขี่ม้า ฟาร์มแกะ
โคนม และไร่นาสวนผสมซึ่งส่งผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวได้เข้าไปยังโรงครัวของโรงเรียน เพื่อประกอบอาหารที่มีความสดใหม่และปลอดสารเคมีให้นักเรียนประจำรับประทานอีกด้วย