
เข้าใจผิดทั้งประเทศ หลังถูกช่อง 7 ปลดฟ้าฝ่า
บ้านหรู ‘โก้ วศิน’ ทิ้งอดีตนางเอกคู่จิ้น ‘พิ้งค์พลอย’ อิสระแล้วดังกว่าเดิม
เรียกว่าอิสระแล้วปังมาก สำหรับนักแสดงหนุ่ม “โก้ วศิน อัศวนฤนาท” หลังอดีตต้นสังกัดร่อนจดหมายยุติสัญญา ทำให้เกิดกระแสฮอตเสิร์ชอยู่พักหนึ่ง
ล่าสุดดูเหมือนความฮอตจะเข้าตาผู้จัดหลายคน เพราะหนุ่มโก้ได้ให้สัมภาษณ์อัปเดตผลงาน ในงานเปิดตัวละครเรื่อง “เจ้าสาวในสายลม”
ซึ่งเป็นผลงานแรกหลังถูกปลดฟ้าผ่ๅ โดยเผยว่ามีละครติดต่อเข้ามาประมาณหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ช่องเดิมนำละครของตนมารีรันนั้น ไม่ติดใจอะไร
ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนได้เห็นหน้าตัวเองบ่อยขึ้น โดยหนุ่ม “โก้ วศิน” เปิดใจว่า “หลังจากเกิดเรื่อง คนก็ติดต่อเข้ามาประมาณหนึ่ง ทางผมถือว่าดีนะ
ยังติดตามผลงานของทางนั้นเหมือนเดิม จริงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากหลายคน ทำให้เคลียร์กันได้ จบด้วยดี
ก้าวต่อไปได้ ความกดดันอาจจะมีบ้างนิดหน่อย แต่เอามาเป็นแรงผลักดันในการทำงานมากกว่า เป็นอิสระแล้วได้เจอคนใหม่ๆ
ก็อยากทำให้ดี อย่างการอยู่ที่เดิม เจอคนเดิมๆ เราจะรู้สไตล์กันมาแล้ว ละครรีรันไม่ติดอะไร มันก็ดีกับเราในแง่ที่ทำให้คนเห็นเราบ่อยขึ้น
อิสระแล้วได้มีโอกาสในการทำนู่นทำนี่ แต่พอออกมา ก็ต้องพยายามเป็นคนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วงนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะ
อยากให้เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ เกณฑ์การรับละคร จริงๆ อยากจะรับทุกอย่างเลย แต่เวลาเป็นเรื่องสำคัญ จะดูเรื่องบท คาแรกเตอร์น่าสนใจไหม
ทำให้เราได้ดึงศักยภาพออกมามากแค่ไหน ตอนนี้ยังแบ่งเวลายังไม่ค่อยได้ แต่ก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อยากทำหลายๆ แบบ
เช่น ภาพยนตร์ที่ยังไม่เคยเล่นแบบเต็มเรื่อง ดราม่าบางอย่างเก็บมาคิดเยอะเหมือนกัน ไม่ถึงกับเซนซิทีฟ แต่แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่า
แต่สุดท้ายก็กลับมาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี แฮปปี้ครับ” “ถามว่าเรามีการตัดสินใจเรื่องการเป็นอิสระมาก่อนมั้ย
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็วเหมือนกัน แต่ว่าโชคดีที่เรามีทีม มีผู้จัดการคอยช่วยกันวางแผนรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราก็ก้าวต่อไปได้
เรื่องความกดดันอาจจะมีบ้างนิดหน่อย แต่ผมเอาสิ่งพวกนั้นมาเป็นความน่าตื่นเต้นในชีวิตการทำงาน มีแรงลุกตื่นขึ้นมา เพื่อไปสู้ในแต่ละวัน
การที่เราออกมาอิสระแล้ว เราได้เจอกับคนใหม่ๆ แน่นอนว่ามันต้องมีความรู้สึกอยากทำให้ดี อยากสร้างความประทับใจให้กับคนที่เราร่วมงาน
ถ้าเกิดเราอยู่ที่เดิมเจอคนเดิมๆ เจอค่าย เจอผู้จัดผู้กำกับฯ เดิมเหมือนรู้สไตล์กันประมาณนึงแล้ว เราไม่ต้องโชว์ของมาก แต่พอออกมาแล้วเราก็พยายามเต็มที่มากกว่าเดิม”