
เป็นอีกหนี่งสาวที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความรัก ครอบครัว และการงาน สำหรับ พลอย ชิดจันทร์
เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการดังเจ้าตัวก็ได้เล่าเรื่องราวที่ทุกมุมของชีวิตที่ทุกคิดว่าสวยงาม
แต่กว่าที่จะเรียบและเดินสะดวกแบบนี้ จริงๆ แล้วก็ผ่านอุปสรรคมาไม่น้อยถาม แต่เมื่อได้มาเจอคุณเคน ก็มีโจทย์
มีปัญหาอยู่ไม่น้อย เจอกันได้ยังไงพลอย ชิดจันทร์ : เจอกันครั้งแรกที่บ้านย่าของพลอย เพราะว่าพี่เคนเขามากับ
คุณอา เขาเป็นลูกหุ้นส่วนของคุณอา ก็มาร่วมงานปีใหม่ของที่บ้าน เพราะตอนนั้นเราก็ทำงานอยู่กรุงเทพฯ แล้วเรา
ก็บินกลับไปงานที่บ้าน เราก็ได้ไปเจอเขาวันนั้นครั้งแรกที่งาน ตอนที่เจอเขาครั้งแรกก็ไม่ได้ปิ้งอะไรขนาดนั้น แต่ว่า
พอมาคิดย้อนหลังถึงทุกวันนี้แบบ.. มันก็มีอะไรนิดๆ ความจริงมันก็รู้สึกพิเศษนิดหนึ่งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น
เขาเป็นคนฮ่องกง-จีน ส่วนมากที่เราคุยกับเขาเลยเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลย เพราะตอนนั้นเขาก็ยังไม่ค่อยได้
ภาษาไทย ตอนนั้นที่เจอเขา พลอยก็ถ่ายหนังแล้ว ก็เล่นละครเรื่องแรกเลยค่ะถาม แปลว่าครอบครัวเราไม่ค่อยถูกใจคนนี้
และครอบครัวเขาก็ดูเหมือนกับไม่ถูกใจเราเหรอ พลอย ชิดจันทร์ : เพราะด้วยความที่เราพูดภาษาจีนไม่ได้ และไม่ได้
เจอคุณพ่อคุณแม่ของเขาด้วย เพราะว่าคุณพ่อเขาไปมาๆ แต่คุณแม่เขาอยู่ฮ่องกงตลอด แล้วคุณอาก็มาบอกคุณแม่ของเราบ้าง
แหละว่าตอนนี้คุณพ่อของเขาก็อยากให้เขาแต่งงานแล้วนะ แล้วเหมือนธรรมเนียมที่บ้านเขาจะมีการแบบหาคนที่เหมาะสมคู่
ควรให้กัน พี่เคนเขาก็ไม่ได้ทำให้พลอยรู้สึกว่าเขาฟังตามนั้น หรือเขาจะทำแบบนั้น เพราะอันนี้ก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ใจเยอะ
เหมือนกัน มันก็มีอุปสรรคปัญหาอะไรเยอะ ที่บ้านเขาอยากให้เขาแต่งงาน เหมือนพาเขาไปดูตัว แล้วเขาก็จะมีสินสอดที่
เว่อร์วังมาก สำหรับคนจีนคือถ้าแต่งงานกัน ผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายให้เพราะเหมือนเขาออกมาจากบ้านเขา เขาก็จะให้ตัง
ก้อนหนึ่งติดตัวมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งที่คุณอามาบอกคุณพ่อคือสินสอดที่เขานำมาคือร้อยกว่าล. พอแม่เราได้ยินท่านก็คิดว่าเราคงไม่ใช่อนาคตของลูกเขา แม่เราก็จะบอกเราว่าโอเคเรื่องรักกัน เรื่องอะไรเขาเข้าใจ แต่ก็ต้องดูทุกอย่างด้วย แต่พี่เคนเขาก็ปฏิเสธพ่อเขา
เขาก็ดื้อ เขาก็บอกไม่เอา ไม่เอาจริงๆ ทางพ่อเขาก็อยากให้เป็นอย่างที่เขาเตรียมไว้ ส่วนแม่เราก็ไม่อยากให้เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทะเลาะกับพ่อ เราก็พิจารณาตัวเองหรือเราต้องถอยออกมาด้วยไหมตอนนั้นเราก็ทำตามที่พ่อแม่เราขอ เราก็เลิก เราก็หายไป
จากเขา ก็ไม่ตอบอะไรเขาเลย เขาโทรศัพท์มา เราก็ไม่รับ เราหายไปอาทิตย์หนึ่ง แล้วประกอบกับตอนนั้นเราไปเที่ยวทะเลกับแม่ อยู่เกาะด้วยแหละค่ะ เราก็ปิดเครื่องเงียบหายไปเลย แต่ก่อนหน้านั้นเราก็คุยกับเขาแล้วว่ามันยาก แล้วอีกอย่างเขาก็มีแผนของเขา ของที่บ้านเขา เขาก็ควรที่แบบต้องทำให้สิ่งที่มันเป็นหน้าที่ของเขา เราก็มีหน้าที่ของเราหมือนพ่อเขาก็ก้ำๆ กึ่งๆ พลอยว่าไม่เชิงโอเคแต่ว่า
บังคับไม่ได้แล้ว เพราะว่าพี่เคนก็ไม่จริงๆ เพราะเวลาที่พี่เคน ดื้อ เขาจะไม่พูดเลย แบบไม่คุยด้วยไม่แบบอะไร พลอยก็ว่าเขาก็คงจะดื้อกับพ่อเขาพอสมควร เขาเป็นคนชัดเจน มีความรู้สึกว่าเขาชัดเจนจริงๆ ว่าเขาไม่คือไม่ ตอนนั้นเราเลยต้องตัดสินใจ เพราะว่าถ้ารอบนี้เราบอกว่าไม่ ก็คือคราวนี้จบจริงแล้ว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะว่าเราคบกันมาขนาดนี้แล้ว เราก็รู้สึกว่าเขาก็ใช่สำหรับเราแล้ว