
อยู่ในวงการบันเทิงมานานเกือบ 20 ปี สำหรับพระเอกนักบู๊ เอก รังสิโรจน์ ที่ล่าสุดผันตัวมาเป็นผู้กำกับละครให้กับช่อง 7
ซึ่งบอกเลยว่า กว่าจะมีวันนี้ได้ เจ้าตัวต้องเจอคำดูถูกสารพัดของครูผู้มีพระคุณอย่าง อาฉลอง ภักดีวิจิตร จากนักแสดงที่ไม่มีพื้นฐานการเล่นละคร
จนได้มาเป็นผู้กำกับละคร คิดว่าตัวเองมาไกลมั้ย? ผมเข้าวงการปี 2548 ก็ประมาณ 17 ปี แต่ถ้าเข้าวงการก็เล่นทวิภพ
หนังใหญ่ก็จะเป็น 18 ปี จากที่ไม่ได้มีความสนใจเลย ผมเป็นนักดนตรีที่เล่นดรตรีกลางคืนในผัU ไม่ได้สนใจทางนี้เลย
ก็ถือว่ามาไกลมาก มีคนเคยพูดว่า ทุกคนไม่ได้เกิดมาเป็นดารากันได้ทั้งหมดหรอก ผมจะบอกกับตัวเองว่า เราจะตั้งใจทำงานแบบเต็มร้อยไม่ได้
เพราะเริ่มต้นอาชีพนี้ตอนที่อายุมากแล้ว เป็นพระเอกในวัยใกล้จะ 30 จะมาทำเต็มร้อยไม่ได้ ต้อง 200 ทุกวัน เพื่อก้าวกระโดดให้ทันคนอื่นเขา
พอมันผ่านการทำงานแบบตั้งใจในทุกๆ วันก็เริ่มรัก สนุกกับงานตรงนี้ จากที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แค่อยากทำเพราะลบคำสบประมาทคนอื่น
ที่ได้มาอยู่ตรงนี้แล้วก็ต้องทำให้ได้ ชีวิตกว่าจะเดินทางมาถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแต่ก่อนครอบครัวเป็นครอบครัวที่ต้นทุuน้อย
และบ้านอยู่ไกลออกไป การเดินทางไปกลับจากโรงเรียนค่อนข้างลำบๅก พ่อกับแม่เลยพามาฝากไว้ที่วัดตั้งแต่อายุ 15 ปีจนถึง 23
ซึ่ง เอก ทำทุกอย่างเหมือนเป็นเด็กวัดตื่นเช้ามาเดินตามพระบิณฑบาตพอ เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเจ้าตัวก็หางานทำเล่นดนตรีเพื่อหาsายได้เสริม
เล่นดนตรีเสร็จก็กลับมานอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องออกเดินตามพระไปบิณฑบาตแต่เช้าชีวิตของเขา ไม่ละความพยายาม สุดท้ายได้รับโอกาสสู่บทพระเอกภาพยนตร์ เรื่องแม่นาค
หลังจากนั้นชีวิตก็ได้พลิกผันกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน แต่การใช้ชีวิตทุกวันนี้ของเจ้าตัวก็ยังคงติดดินไม่หรูหราเลย
สิ่งสำคัญเลยก็คือเขาไม่เคยลืมว่าเขาได้ดีเพราะอะไร และนานๆจะเห็นพระเอกบู๊ เอก รังสิโรจน์ ออกงานปริปากพูดถึงเรื่องความรักกับสาวนอกวงการ
ที่คบหาดูใจนานหลายปี โดยล่าสุดเจ้าตัวได้อัปเดตถึงความรัก ที่แม้จะไม่ได้เปิดตัวแต่ก็มีแพลนสร้างอนาคตด้วยกันว่าทำไมถึงยังไม่เปิดตัวสักที
“ผมอาจจะเป็นมนุษย์หัวโบราณ มันอยู่ที่คนสองคนเข้าใจกัน ไม่ใช่แค่เราหรอก ยังมีนักแสดงอีกหลายคน ที่เขายังหวงแหนโลกส่วนตัวของเขาอยู่ สำหรับผมก็ไม่แปลกอะไร”