
หนีหายเข้าป่า หลังแต่งตระกูลมหากายี บ้านกลางเขา ‘โรส วริศรา’ สร้างโรงเรียนเองสอนลูกแค่ 2 คน
หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงไปเสียนานเลยนะคะสำหรับสาวคนนี้ “โรส วริศรา ลี้ธีระกุล (มหากายี)” หลังจากแต่งงานไปทำหน้าที่ภรรยา
ที่แสนน่ารักให้กับสามีสุดที่รักอย่างคุณโอ๊ค คฑา มหากายี ซึ่งทั้งสองใช้เวลาบ่มเพาะเมล็ดความรักจนเติบโตมาเป็นต้นรักที่แข็งแรงกว่า 19 ปี
โรสกับคุณโอ๊คมารู้จักกันด้วยความบังเอิญค่ะ คือตอนนั้นโรสได้มีโอกาสเข้าไปประกวดนางงาม ซึ่งงานนั้นพอดีว่าแม่ของคุณโอ๊คท่านมาเป็นสปอนเซอร์ให้ค่ะ
แล้วด้วยความบังเอิญอีกแหละที่โรสชนะการประกวดในครั้งนั้นก็เลยต้องมาช่วยทำงานให้กับทางบริษัทของคุณแม่สามี โรสแต่งงานตอนอายุ 30 ปีนะคะ
เราคบกันเป็นแฟนมาตั้งแต่อายุ 18 ตอนนี้โรสก็อายุ 37 แล้วก็เท่ากับเกือบ 20 ปีได้ คบกันนานแล้วก็นานมากอีกกว่าจะแต่งงาน
เพราะก็เหมือนคนทั่วไปคู่อื่นๆ ก่อนที่จะผันชีวิตจากเมืองกรุงไปอยู่ที่เชียงดาวเพื่อให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกับ”โรส วริศรา”ผ่านบทบาทพิธีกรรายการ อาทิ “ศุกร์สบาย”, “ลุ้นข้ามโลก” รวมถึงบทบาทนักแสดง
จนกระทั่งได้แต่งงานกับ “โอ๊ค คฑา มหากายี” ซึ่งได้ร่วมกันก่อตั้ง”มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์”ขึ้นมา
และ “โรส วริศรา”ได้ออกจากวงการ ทิ้งการใช้ชีวิตแสนเร่งรีบในเมืองกรุง ไปปักหลักอาศัยอยู่ที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
มีบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ใช้ชีวิตเรียบง่าย โดยมีลูกๆ “น้องช้างน้อย เป็นตา มหากายี” และ”น้องลิบตา ลิบตา มหากายี”
คอยเติมเต็มให้ชีวิตสมบูรณ์ รวมถึงยังคงดูแลโรงแรมพระนครนอนเล่น ย่านบางขุนพรหม ที่ได้เปิดสอนทำ “ขนมปังเปลี่ยนชีวิต” เพื่อช่วยเหลือ
มอบความสุข มอบอาชีพให้แก่ผู้อื่นด้วย แต่เมื่อเข้าไปดูในอินสตาแกรมของคุณโรสก็พบว่าพื้นที่ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ที่เธอพำนักอยู่กับครอบครัวนั้นช่างกว้างใหญ่จนอาจเรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรเลยก็ว่าได้ โดยใช้ชื่อว่า “มาลาดาราดาษ” ซึ่งกินพื้นที่เป็นทั้งสวนปลูกผัก
ที่พักแรมสำหรับนักเดินทาง นอกจากนั้นยังมีการสอนทำขนมปังให้กับผู้ที่สนใจ และที่ลืมไม่ได้เลยคงเป็นที่พักของครอบครัวเธอ
ทุกวันนี้ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะโรสกับสามีเป็นครูให้ลูกเอง สอนหนังสือให้ลูกเองทั้งหมดเลย ตอนนี้ถ้าพูดกันตรงๆเลยแล้วก็คุยกับสามีอยู่เหมือนกัน
ว่าที่หนึ่งที่สำคัญสำหรับครอบครัวเลยก็คือลูกค่ะ เพราะเค้ายังเล็กอยู่ แต่ถ้าเค้าพ้นวัยที่เราจะต้องเลี้ยงดูแล้ว เราสองคนก็จะกลับมาเป็นที่หนึ่งของกันและกัน
เพราะสุดท้ายแล้วในบั้นปลายของชีวิตลูกก็ต้องมีอนาคต มีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ว่าเราสองคนยังคงต้องแก่กันไปอีกนาน
ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้เราก็จะทุ่มทุกๆ อย่างไรที่ลูกก่อน จะไม่มานั่งงอนกัน หรือเสียอกเสียใจว่าเธอไม่ดูแลฉัน ฉันไม่ดูแลเธอ ไม่มีค่ะ