
ทำงานในวงการ 10 กว่าปี เพิ่งจะมีชื่อเสียง
เปิดชีวิต ‘บูม สุภาพร’ ดิ้นรนทำงาน 365 วัน-เป็นเสาหลักแบกครอบครัวกว่า 70 ล้าน
ขึ้นแท่นเป็นนางเอก ในละคร อังกอร์ 2018 สำหรับ บูม สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง แต่น้อยคนที่จะรู้เรื่องราวในวัยเด็กที่ชีวิตพลิกผันจากลูกคุณหนูกลายเป็นคนที่ไม่มีบ้านอยู่
“คือก่อนหน้านี้เคยมีทุกอย่าง ตอนเด็กๆ คือ ลูกคุณหนูเลย จุดพลิกผันคือ คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน ธุรกิจกลายเป็นติดหuี้ 60-70 ล้าน เราก็รู้สึกว่า
ขอบคุณที่เกิดเหตุการณ์นี้ในชีวิต เพราะหล่อหลอมเราให้ต่อสู้มีวันนี้ เพราะเคยได้อย่างเดียว เคยเอาแต่ใจตัวเองมาก ไม่พอใจพี่เลี้ยง
หนูจะเอาหมากฝรั่งบี้ใส่หัว พี่เลี้ยงจับจักรยาน ก็ไปผลักพี่เลี้ยงไม้เสียบลูกชิ้นทิ่มทะลุมืo เป็นเด็กที่นิสัยไม่ดีเลย แต่พอมาวันหนึ่ง ชีวิตที่เปลี่ยนไป พ่อไปทาง แม่ไม่รู้อยู่ไหน
พ่อไม่รู้อยู่ไหน เราย้ายไปอยู่กับอี๊กับอา เปิดเทอมอยู่บ้านคนหนึ่ง ปิดเทอมมาอยู่บ้านอีกคนหนึ่ง เราอยู่กับคนอื่น เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องเกรงใจเขา
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย เราก็เลยเปลี่ยนทัศนคติ รู้ว่าการให้คืออะไร แบ่งปัน เพราะเราอยู่กับน้องกับพี่เรา มันไม่ใช่คนที่เราจะสามารถเอาแต่ใจได้
แม่บูมเคยดูแลธุรกิจไฟฟ้าทั้งหมดของจังหวัดของอุดรธานี เคยมีทุกอย่าง แต่สุดท้าย มีวันหนึ่งที่แม่หนู แม้แต่ส้อมคันหนึ่งที่จะเอาออกจากบ้าน ก็เอาออกไม่ได้
แม่ต้องไปvายน้ำสำรองขวดละ 20 บาn ตามตลาด เราเห็นแบบนั้นแล้ว เราเห็นเขาลำUากไม่ได้อีกแล้วอ่ะ เราก็ทำทุกอย่างเพื่อให้มันกลับมาเหมือนที่เขาเคยมี
คือบูมโชคดีที่ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย ใครจะมีอะไรขนาดไหนก็ตาม แต่แม่บูม ภูมิใจที่สุดที่มีบูม” อย่างที่บูมพูดเสมอว่า บูมอยู่ในวงการมานาน
สู้มานานกว่า 10 ปี กว่าจะเป็นที่รู้จัก ถามจริงๆ เคยคิดมั้ยว่าตัวเองจะมีวันนี้ วันที่ได้เป็นนางเอกละครของช่อง 3 เป็นที่รู้จักของคนเยอะขึ้น
บูม สุภาพร หัวเราะเสียงดังแล้วตอบเราว่า “บูมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันนี้เลย ไม่คาดหวัง บูมมาไกลกว่าสิ่งที่บูมหวังไว้มาก (ยิ้ม)
เอาจริงๆ นะ บูมไม่เคยโฟกัสเรื่องในวงการบันเทิงเลย ที่ทำตั้งแต่แรก เพราะมีโอกาสได้ทำก็ทำมาเรื่อยๆ ไม่เคยคิดว่าจะอยากดัง
อยากเล่นละคร เคยเล่นละครเรื่องเดียว แล้วรู้สึกไม่ใช่ก็เลยไม่เล่น จนมาเล่นเรื่องอังกอร์ เพราะผู้จัดการขอให้ไปแคสหน่อย ก็ยอมไป
ตอนที่เข้ามาก็ไม่ได้จริงจัง เพราะที่บ้านก็มีธุรกิจ แต่พอตอนนี้มันกลายเป็นอาชีพที่บูมเอามาไว้ใช้เลี้ยงดูตัวเองและคุณแม่
เพราะบูมไม่เคยคาดหวัง เลยไม่รู้ว่าเราต้องฝ่าฟันมายังไง รู้แต่ว่าเราก็เก็บชั่วโมงบินมาเรื่อย พอมาเล่นละคร แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนรู้จักบูมมากขึ้น ซึ่งมันเป็นโชคดี”