วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิ์แล้ว แต่ทางกระทรวงการคลังได้ทำการตรวจสอบประมวลผลพบว่ายังมีผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จอีกจำนวนทั้งสิ้น 119,974 สิทธิ์ จึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ยังไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้สำเร็จ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 อีกครั้ง
โดยจะเปิดลงทะเบียนอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะเต็มจำนวนสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน มีดังนี้
- มีบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ประชาชนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ 1 โครงการเท่านั้น
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th)
- ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน), (ตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิ์ผ่านบัตรประชาชนได้จาก www.เราชนะ.com)
วิธีลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3
1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
2. คลิกคำว่า ลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน
3. เข้าสู่หน้า หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
4. จากนั้นให้คลิกเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ ข้าพเจ้าได้อ่าน และตกลงยินยอมตามรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมข้างต้น จากนั้นกด ยืนยัน
5. เข้าสู่หน้ากรอกข้อมูล เพื่อใช้ในการลงทะเบียน โดยใช้ข้อมูลดังต่อไปนี้
- ชื่อ/นามสกุล
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- รหัสหลังบัตรประชาชน
- วัน/เดือน/ปีเกิด
- เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้
- อีเมล (ถ้ามี)
- ข้อมูลอาชีพ
- รายได้
6. เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยให้คลิกคำว่า ลงทะเบียน
7. จากนั้นระบบจะให้กรอกเลข OTP ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านลงทะเบียนไว้ โดยเป็นหมายเลข 6 ตัว เมื่อกรอกเสร็จให้คลิก ยืนยัน OTP
8. เสร็จแล้วจะขึ้นข้อความว่า ระบบได้รับข้อมูลของท่านแล้ว โดยจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของท่านตามเงื่อนไขโครงการต่อไป ทั้งนี้โครงการจะแจ้งผลการเข้าร่วมโครงการผ่าน SMS/แอปฯ เป๋าตัง ภายใน 3 วัน แล้วคลิกคำว่า กลับสู่หน้าหลัก เป็นอันเสร็จการลงทะเบียน
ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์ภายใน 3 วัน จากนั้นขอให้ท่านยืนยันตัวตนผ่านช่องทางใดก็ได้ ดังนี้
1. ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย
2. ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้
3. ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564