ยังเป็นประเด็นร้อนที่ตอบโต้กันไม่จบ สำหรับเรื่องราวของอดีตสามีภรรยา หนุ่ม ศรราม และ กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ หรือติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ที่แม้ว่าจะเซ็นใบหย่ากันมาปีกว่าแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่ยังเป็นปมดราม่ า โดยเฉพาะเรื่องลูก ที่ก่อนหน้านี้ติ๊กได้ลุกขึ้นมาไลฟ์ขอทวงลูกคืนสู่อ้อมอกแม่ จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลาย ลามไปถึงปัญหาเรื่องเงินและขู่แ ฉอดีตสามีอีกด้วย แถมงานนี้ยังมีแฟนคลับออกมาแ ฉกุ้งพลอย ไม่ยอมคืนเงินที่ยืม พร้อมบอกว่าตนเองนั้นติด CV-19
โดยล่าสุด หนุ่ม ศรราม ก็ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้อีกครั้งในรายการ คุยแซ่บShow ขอเคลียร์ทุกประเด็นไว้ว่า
ไลฟ์แรกของภรรยาคุณ บอกว่าคุณหนุ่มไม่ให้เจอลูก จริงไหม
ก็ 10 เดือนไม่ยอมให้เจอลูกเลย ต้องเรียนแบบนี้ว่าตั้งแต่เราแยกทางกัน ผมเนี่ยให้พบลูกเดือนละ 2 ครั้ง โดยผมมอบหมายให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายเป็นคนประสานงานในการพบลูกทุกครั้ง เพราะบางทีผมทำงานอาจจะไม่สะดวก คราวนี้อย่างที่เคยบอก เราไปเจอกันที่ร้านอาหารที่เคยทานกันเป็นประจำ ครั้งที่ 2 คุณติ๊กก็ไปร้องมูลนิธิ ผมก็ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายไปดูปรากฏว่าสถานที่ก็ไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่
คุณติ๊กก็ให้คนที่มูลนิธิไปติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับสิทธิสตรีและเด็ก ผมกับที่ปรึกษาทางกฎหมายก็ไปดูสถานที่มันดูสะอาดสะอ้านก็เลือกตามความประสงค์ของคุณติ๊ก ก็เลยเอาวีจิไปเจอที่นั่น พอไปได้ 1 ครั้ง ครั้งที่ 2 คุณติ๊กก็ไม่พอใจสถานที่อีก ก็บอกว่าขอกลับมาเจอที่ร้านอาหารได้ไหม ผมก็พามาเจอ
ปรากฏว่าคุณติ๊กพาบุคคลภายนอกที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เขามาบอกผมว่าต่อไปไม่ให้มาเจอที่ร้านอาหารแล้ว ให้ไปนอนที่ห้องติ๊กเลย ผมก็เรียนผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนั้นว่าผมไม่รู้จักท่าน แล้วผมก็มีสิทธิในการดูแลลูกอยู่แล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะมานั่งพูดกับท่านทำไม เพราะว่าผมมีหน้าที่เอาลูกมาเจอแม่ แล้วผมก็บอกคุณติ๊กว่าผมไม่มีความประสงค์จะให้บุคคลภายนอกเนี่ยมาพบลูก ที่พาลูกมาคืออยากให้คุณติ๊กมีเวลาอยู่กับลูก
คราวนี้ครั้งต่อมารู้สึกว่าคุณติ๊กไม่สบายเขาก็แจ้งผ่านที่ปรึกษาทางกฎหมายมาว่าขอไม่เจอ ไปเจออีกเสาร์นึง พอมาเจอมันจะใกล้ๆ วาเลนไทน์ คุณติ๊กก็ไปเอาดอกไม้ไปโรยทั้งชั้นของร้านอาหาร แล้วก็มาโรยที่รถตู้ผม ผมก็แค่บอกว่ามันสิ้นเปลืองไหม เราก็เข้าใจความเป็นแม่ว่าอยากจะฉลองวันวาเลนไทน์กับลูกเค้าบอกมาอย่างนั้น คราวนี้ที่ปรึกษาทางกฎหมายกับผมมานั่งคุยกันว่าน่าจะให้เค้าเจอกันมากขึ้นเนอะ เพราะผมก็เห็นว่าวีจิก็ดีใจ ติ๊กก็ดูดีเวลาอยู่กับลูก ก็เลยคุยกับคุณติ๊กว่าจะเดือนละ 2 ครั้ง เป็นเดือนละ 4 ครั้ง ทุกวันเสาร์ แต่ที่เจอเปลี่ยนเป็นที่คอนโดของผมที่คุณย่าเคยอยู่ ก็จัดที่ทางไว้ให้
ครั้งแรกอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรแต่ก็สะอาดสะอ้าน เขาจะได้มีความเป็นส่วนตัว เขาจะได้นอนกอดกัน มีสระว่ายน้ำ สวนหย่อมเป็นที่เป็นทาง พอบอกเสร็จวันนั้นคุณติ๊กก็บอกว่าวันนี้ขอพาลูกไปเซ็นทรัลได้ไหม ผมก็ถามว่ามีตังค์ติดตัวหรือเปล่า เขาก็ว่ามี เขาก็พาไปก็เป็นอย่างที่ผมสัมภาษณ์ไปว่าพอแยกกันปุ๊บก็มีคนโทรมาหาผมเลยว่าคุณติ๊กยืมสตางค์ไป 5,000 เป็นเพื่อนรุ่นพี่เขาที่เรารู้จักกันทั้งคู่ เขาโทรมาว่าคุณติ๊กยืม ผมก็คืนให้ทันทีเพราะเห็นว่าเค้าพาลูกเราไปอะ
เรื่องที่เขาบอกว่าคนอื่นอาจจะต้องกลัวพระเอกคนนี้ แต่เขาไม่กลัว เขากุมความลับไว้อยู่ ความลับอะไร
ไม่รู้ (หัวเราะ) ความลับอะไรอะ ต้องให้เขาเอาออกมาดูว่าความลับอะไร
มีเรื่องประเด็นเขากับแฟนคลับ
เรื่องแฟนคลับผมลงรูปวีจิธรรมดา แล้วมีไลฟ์ของติ๊กออกมา ผมชี้แจงกับนักข่าวไปส่วนหนึ่ง ก็ลงรูปวีจิปกติแล้วก็มีคอมเมนต์มาให้กำลังใจและพูดเป็นนัยๆ ว่ามีปัญหาธุรกรรมการเงินกับติ๊ก แต่เขาไม่พูดชื่อ เขาก็เข้ามาเป็นคอมเมนต์นึง ไม่รู้ใครแคปมาให้ผมดู มันเป็นเพจของคุณติ๊กขึ้นว่าดำเนินคดี อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน
จากนั้นก็มีโพสต์แชตที่ติ๊กคุยกับแฟนคลับและหลักฐานการโอนตังค์ ผมรู้พร้อมทุกคน แฟนคลับไม่ได้พูดอะไร แต่คุณติ๊กจะดำเนินคดีเขา เขาเลยเอาแชตออกมาให้ดู มีการยืมเงิน ฝ่ายแฟนคลับโอนตังค์ให้คุณติ๊ก แฟนคลับไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นจะไปฟ้องติ๊ก แต่ติ๊กอ่านคอมเมนต์แล้วจะไปดำเนินคดีเขา ผมได้แต่บอกว่าขอโทษ ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพิ่งจะมาทราบและเป็นกำลังใจให้
อดีตภรรยาบอกแฟนคลับว่าติด CV-19
อันนี้น่าจะเป็นในอดีต ผมเห็นที่แฟนคลับโพสต์ว่าเขาเป็น CV-19 แต่ตอนนั้นที่อยู่ด้วยกันไม่เป็น CV-19 (เขาบอกว่าติดมาจากแมทธิว) เท่าที่อ่านคุณติ๊กบอกว่าเป็น CV-19 ติดจากแมทธิวที่สนามมวย แต่อีกฝ่ายออกมาแก้ แต่ผมเรียนตามตรงไม่มีใครติด CV-19 น่าจะเป็นมูลเหตุอย่างหนึ่ง เป็นการสนทนาของติ๊กกับแฟนคลับ ผมไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงเพื่ออะไร
มันเกี่ยวกันมั้ย
เราก็งงเขาเป็น CV-19 ตอนไหน
ทุกเรื่องที่สร้างมาเกี่ยวมั้ยกับเป็น CV-19 ด้วย ขายหน้ากาก
เรางงเขาเป็น CV-19 ตอนไหน เขาไม่ได้เป็น CV-19
ยังยืนยันมั้ยว่าจะแก้ไขให้คุณติ๊กสามารถทำหน้าที่ในส่วนของแม่
ครั้งนี้ผมบอกตรงๆ ว่าผมไม่ไหว กับการที่ทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ไม่ถูกใจ แล้วก็ออกมาแบบนี้ทุกครั้ง ผมไม่ไหวจริงๆ แต่ถามว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ผมทำ ไม่ว่าจะให้ลูกเจอเดือนละ 2 ครั้ง เพิ่มเป็น 4 ครั้ง คุณติ๊กไปมูลนิธิผมก็ไป ไปหน่วยงานทางภาครัฐผมก็ไป ผมจัดการเจอ 4 ครั้ง ให้อยู่ที่คอนโด ทำความสะอาดคอนโด รีโนเวตใหม่ จะได้อยู่กอดลูก แต่นี่แค่ขอเลื่อนจากวันเสาร์เป็นวันอังคาร แล้วก็ไล่ลูก ไม่เอาลูก พอถึงเวลามาไลฟ์สดด่าผมสารพัด แล้วขอโทษก็จบกัน อะไรแบบนี้
ถ้าเขาติดต่ออยากจะขอเจอลูก เราคิดว่าเราจะยังไง
ตอนนี้ยังเจอไม่ได้หรอกครับ จริงๆ นะ เพราะผมไม่ทราบว่าคุณติ๊กไปทำอะไรมาบ้างในแต่ละวัน ผมอยู่บ้านกับลูก เรารู้ชีวิตความเป็นอยู่กันในขณะที่มันมีโร คระบาด ขึ้น แต่ผมไม่รู้ว่าในแต่ละวันคุณติ๊กไปทำอะไรมาบ้าง ช่วงนี้ผมก็ต้องขออนุญาตยังไม่ให้พบเพราะด้วยสถานการณ์ของ CV-19 ตอนนี้ CV-19 มันรุ นแ รง สิ่งที่จำเป็นที่สุดในวันนี้คือเรื่องนี้ ก็ไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเครียดกับผม
อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งสองฝ่ายด้วยนะคะ
ขอบคุณ คุยแซ่บShow