เจ้าหน้าจับกุมตัว นางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา อายุ 49 ปี หรือ แม่ชีอู๋ หลังแอบอ้างเป็นพระยาธรรมมิกราช ซึ่งตั้งตนเป็นภิกษุณี ภายในสำนักปฏิบัติธรรมวิปัสสนา พระพุทธสิกขี พร้อมด้วยแม่ชีอีก 2 คน ฐานความผิดฉ้อโกง หลังผู้เสียหายกว่า 400 คน แจ้งความจับหลอกตั้งกองทุนโควิด มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ถูกแม่ชีอู๋ชักชวนตั้งกองทุนช่วยเหลือ โ ค วิ ด ระดมทุนให้ซื้อผ้าป่ากองละ 3,500 บาท บอกว่าจะได้ผลตอบแทนคืนกำไรสูง ทั้งเงินและทอง จนเวลาผ่านมา 2-3 เดือน กลับยังไม่มีใครได้กำไรทั้งเงินและทองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ขณะจับกุมแม่ชีอู๋ เรียกสรรพนามแทนตัวเองว่าอาตมา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเจรจานานกว่า 10 นาที จึงยอมให้จับกุม แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกง และไม่มีส่วนรู้เห็น รวมถึงแม่ชีอีก 2 คน ก็อ้างไม่รู้เห็น และไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน
ล่าสุดหลังจากพนักงานสอบสวน สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้สรุปสำนวนคดี น.ส.อิสรีย์ ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เสร็จเรียบร้อยได้นำคำร้องยื่นฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยพนักงานสอบสวน สภ.กุตาไก้ ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาด้วย เนื่องจากสถานการณ์ โ ค วิ ด ระ บ า ด จึงต้องลดจำนวนความแออัดภายในห้องควบคุมศาล โดยใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากศาลจังหวัดนครพนมไปยัง สภ.กุตาไก้
ตลอดทั้งวันไม่มีญาติของ น.ส.อิสรีย์ มาแสดงตนเพื่อขอประกันตัวแต่อย่างใด กระทั่งหมดเวลาราชการ ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป