เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 63 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ย่านแจ้งวัฒนะ นางสาวอนัญญา หรือ(เล็ก) แซ่ลิ้ม อายุ 54 ปี พักอยู่สุวิทวงศ์ กรุงเทพมหานคร พร้อมนายกิตติศักดิ์ สมบูรณ์ทองธนา อายุ 31 ปี (ลูกชาย) เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
ภาพจาก ทนายคู่ใจ
เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากเมื่อวันที่23พฤษภาคม2563ที่ผ่านมานางสาวเล็กถูกงูเห่ากัดบริเวณเท้าซ้าย ลูกชายรีบนำตัวส่ง รพ.แห่ง1ย่านมีนบุรี แต่หมอกับให้นอนรอความตายนานกว่า 7 ชั่วโมง
น.ส.เล็กเล่าเหตุการณ์ว่าตนมีอาชีพขายของชำอยู่หน้าบ้าน เวลา 20.00 น. ของวันดังกล่าวหลังเก็บร้านเสร็จ และเดินเข้าไปในบ้าน ปรากฎมีงูที่ซ่อนอยู่ตรงขอบประตูทางเข้าเลื้อยเข้ามาฉกตนเองก่อนชูคอแผ่แม่เบี้ย จึงร้องขอความช่วยเหลือจนลูกชายและลูกสาววิ่งมาดู จากนั้นลูกสาวจึงรีบนำเชือกมาขันเฉนาะด้วยความตกใจเพื่อห้ามพิษงูมิให้แพร่กระจาย ส่วนลูกชายก็รีบนำตนเองส่ง รพ.นพรัตน์ราชธานี โดยนางสาวเล็กถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินและนอนอยู่ตั้งแต่เวลา20:00น.จนถึง03:00น. ราวๆ 7 ชั่วโมง
หมอก็ถามว่างูอะไรกัดมา ตนบอกเป็นงูเห่า หมอก็บอกทำไมไม่ตีให้ตายเอาซากงูมาให้ดูด้วยจะได้แน่ใจ ตอนนั้นตนเองเริ่มตัวแข็ง ตาค้าง จำอะไรไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าเหมือนโดนเข็มแทงแต่แทงไม่เข้า อุจจาระ ปัสสาวะเรี่ยราด มารู้สึกตัวอีกทีตอนตีสามถูกส่งตัวมารักษาที่ รพ.สิรินทร จนอาการดีขึ้น หมอบอกโชคดีนะถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเสียชีวิตแน่ ไม่ก็ต้องตัดขาทิ้ง
ภาพจาก ทนายคู่ใจ
ทุกวันนี้แผลรอยเขี้ยวที่งูกัดต้องถูกกว๊านจนลึกเห็นเนื้อใน ตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมหมอที่ รพ.น. ถึงต้องปล่อยให้นอนรอนานขนาดนั้นโดยไม่รีบรักษา ทุกวันนี้ต้องไปล้างแผลทุกๆ 3 วัน ลำบากมากว่า 2 เดือนแล้ว ค้าขายก็ไม่ได้ ไม่ได้ต้องการอะไร เพียงอยากให้เรื่องของตนเองเป็นอุทาหรณ์ต่อสังคม
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ บุตรชาย กล่าวเพิ่มเติมว่าคืนเกิดเหตุตนเองตกใจมากรีบนำแม่ส่ง รพ. แต่เมื่อไปถึงมือหมอคุณแม่ต้องนอนรอรับการรักษาในห้องฉุกเฉินนานเกือบ 7 ชั่วโมง โดยทาง รพ.ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ถามแต่ว่างูอะไรกัด ตนบอกว่าเป็นงูเห่า เขาก็ตอบมาว่า รู้ได้ไง แน่ใจเหรอ ตนบอกแน่ใจเพราะงูแผ่แม่เบี้ย
จากนั้นเวลาเที่ยงคืนเศษก็ให้ตนวิ่งทำเรื่องเบิกเซรุ่มเอง แล้วตีสามครึ่งก็บอกแม่อาการหนักต้องส่งต่อ รพ.สิรินทร ซึ่งแม่มีบัตรทองอยู่ที่นั่น ก็สงสัยว่าทำไม รพ.แห่งนี้ ไม่รีบรักษาคุณแม่หริอเห็นเราไม่มีเงินมีแค่บัตรทองรักษาฟรี
ทางด้านทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ได้รับร้องเรียน ว่าผู้เสียหายถูกงูเห่ากัดแล้วไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งปรากฏว่าระยะเวลาในการรอรับรักษาพยาบาลนั้นล่าช้ามาก ทำให้ต้องถูกตัดเนื้อบางส่วนของเท้าทิ้ง ในกรณีคนไข้ฉุกเฉินควรจะรักษาเลย
ไม่ใช่ปล่อยทิ้งนานขนาดนั้น หลังจากนี้จะทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้มีการตรวจสอบโรงพยาบาลแห่งนี้และขอให้ดูมาตรการเยียวยาทางกฎหมาย สปสช. ให้กับทางผู้เสียหายเรื่องเงินเยียวยาไม่สำคัญ เพียงแต่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับประชาชนคนอื่นอีกเพราะว่าถ้าช้ามากๆจนถึงเสียชีวิต เพราะคนเสียชีวิตคงไม่มีใครมาร้องเรียนได้ ที่มาวันนี้ได้เพราะยังไม่เสียชีวิต อยากให้เกิดความเป็นธรรมในการรักษาของภาครัฐ ทุกโรงพยาบาลควรจะรักษาให้ไวกว่านี้